ไม่ทันอยู่ดีจริงไหม ? พูดถึงกลุ่มขนส่ง เธอเคยไปคลี่คลายภารกิจ คุณสมบดในการใช้บริการกลุ่มขนส่งหรือยังจ๊ะ?”
เขี่ยหลานถอนหายใจ “พูดถึงเรื่องนี้ฉันละอดโมโหไม่ได้ เพราะ ม่คนสุมหัวกันท้าพนันด้วยนะคะ! ได้รนว่าตอนแรกหนานอี๋กับเพิงฉิงเอง ก็โดน สระ น้ำ เป่า ลม มือ สอง พวกสมาชิกหลายคนหัวเราะเยาะด้วยเหมือนกัน มิน่าเล่าพี่เพิงถึง ได้โมโหจนไม่พูดไม่จาแบบนั้น”
“ท่านหัวหน้าสมาพิน่ธ์โมโหไม่พูดไม่จาหรือ?” คมพิรุณถาม อย่างสงสัย “มีด้วยหรือ? พี่ว่าวันนี้เขาออกจะอารมณ์ดีออกนี้! อ๋อ...เธอ หมายถึงไม่กี่วันก่อนหน้านี้สินะ ?”
เขี่ยหลานพยักหน้า แต่พอนึกถึงอาการเชื่องซึมของเฉินเพิง กับตัวเธอที่คิดจะไปเปลี่ยนเขาโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแล้ว ก็ไม่ทราบ จะพูดต่ออย่างไรดี
“ฉันกำลังคิดจะซมคุณอยู่เชียว แต่กลายเป็นว่าคุณตันพาตัว เองไปหาทางตันเหมือนท่านหัวหน้าสมาพันธ์ไปอีกคนซะแล้ว” คมพิรุณบ่น “ทำไมไม่ลองคิดดูบ้างล่ะว่าวันนี้ที่โลกภายนอกน่ะเป็นเวลาไหน และคน ที่กำลังออนไลน์ในตอนนี้ สระ น้ำ เป่า ลม รั่ว น่าจะเป็นใครบ้าง ความกระดือรือร้นของเธอมัน ถูกทำลายได้ง่ายขนาดนี้เชียวหรือ ?”
เขี่ยหลานค่อยรู้สึกตัวและคิดขึ้นได้ว่า “จริงด้วย ! ตัวเธอเองก็ พยายามหาทางทำให้เฉินเพิงกลับมาร่าเริงอีกครั้งอยู่ไม่ใช่หรือไง ? เพราะ ในสมาพันธ์ไม่ได้มืแต่พวกที่เห็นแก่ตัวลักหน่อยนี้ ! แล้วนี่ไหงตัวเธอเอง ตันพลอยหลงทางไปอีกคนได้ละ สระน้ำเป่าลม สไลเดอร์ จะใช้ซ่องลับเรียกตัวพวกเจี๋ยเด๋อกลับมาหา แต่ก่อนจะทันได้ลงมือ ก็หัน ไปเห็นพวกนั้นอยู่ช้างหน้าห่างออกไปไม่ไกลนักเข้าเสียก่อน และที่ทำ ให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นคือ คนที่กำลังคุยอยู่กับพวกเจี๋ยเด๋อตันเป็นคนที่ เขากำลังคิดอยากเจออยู่เมื่อครู่นี้นั้นเอง
วิหารจันทราเทพมองเห็นเฉินเหิเงแต่'ไกลอยู่ก่อนแล้ว จึงร้อง ทักอย่างดีอกดีใจ
“พี่เหิเง ! ไม่ได้เจอกันนานเชียวค่ะ !”
ถึงแม่ในความเป็นจริงเพิ่งจะผ่านไปแค่ไม่กี่วันเท่านั้นก็ตาม แต่ สำหรับในโลกแห่งเกมออนไลน์ที่เวลายาวนานกว่าในโลกความจริงถึง 6 เท่า นี้ ก็ถือว่าไม่ได้พบกันนานพอดูแล้วจริงๆ นั้นละ แน่ละว่าเฉินเหิเงเองก็ ร้องทักตอบไปอย่างดีอกดีใจเซ่นกัน สระน้ําเป่าลมขนาดเล็ก แล้วพลันเหลือบไปเห็นตราบนแขน ของวิหารจันทราเทพ ตรานินตน ดูท่าเธอจะไม่ได้ใต้อาชีพนักบวชก่อน เสียแล้ว
เซียวหยาวก็ยังแต่งชุดนินจาที่มืผ้าคลุมหน้าอยู่เหมือนเดิม เธอ หันมามองเฉินเหิเงอย่างตกใจที่เห็นเขาพลอยเปลี่ยนมาสวมชุดนินจาด้วย เหมือนกัน บุคคลทั้งสามซึ่งเคยร่วมผจญภัยกันมาได้มาพบกันอีกครั้ง ด้วยความบังเอิญแบบสุดๆ
“ไหงพอสามคนเจอหน้ากันปีบ สระ น้ำ เป่า ลม intex ก็สบสายตาสื่อความนัยกันปิง ๆ แถมทั้งพวกเราไปเลยอย่างนี้ล่ะ?” อาชากาฬเทพแดนประจิมพูดยิ้มๆ
เฉินเหิเงเค้นเสียงว่า “ยังไม่ทันได้คิดบัญชีกับพวกนายเลยด้วยซํ้า นี่ยังจะมาใส่ไฟกันอีกเรอะ
เขี่ยหลานถอนหายใจ “พูดถึงเรื่องนี้ฉันละอดโมโหไม่ได้ เพราะ ม่คนสุมหัวกันท้าพนันด้วยนะคะ! ได้รนว่าตอนแรกหนานอี๋กับเพิงฉิงเอง ก็โดน สระ น้ำ เป่า ลม มือ สอง พวกสมาชิกหลายคนหัวเราะเยาะด้วยเหมือนกัน มิน่าเล่าพี่เพิงถึง ได้โมโหจนไม่พูดไม่จาแบบนั้น”
“ท่านหัวหน้าสมาพิน่ธ์โมโหไม่พูดไม่จาหรือ?” คมพิรุณถาม อย่างสงสัย “มีด้วยหรือ? พี่ว่าวันนี้เขาออกจะอารมณ์ดีออกนี้! อ๋อ...เธอ หมายถึงไม่กี่วันก่อนหน้านี้สินะ ?”
เขี่ยหลานพยักหน้า แต่พอนึกถึงอาการเชื่องซึมของเฉินเพิง กับตัวเธอที่คิดจะไปเปลี่ยนเขาโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแล้ว ก็ไม่ทราบ จะพูดต่ออย่างไรดี
“ฉันกำลังคิดจะซมคุณอยู่เชียว แต่กลายเป็นว่าคุณตันพาตัว เองไปหาทางตันเหมือนท่านหัวหน้าสมาพันธ์ไปอีกคนซะแล้ว” คมพิรุณบ่น “ทำไมไม่ลองคิดดูบ้างล่ะว่าวันนี้ที่โลกภายนอกน่ะเป็นเวลาไหน และคน ที่กำลังออนไลน์ในตอนนี้ สระ น้ำ เป่า ลม รั่ว น่าจะเป็นใครบ้าง ความกระดือรือร้นของเธอมัน ถูกทำลายได้ง่ายขนาดนี้เชียวหรือ ?”
เขี่ยหลานค่อยรู้สึกตัวและคิดขึ้นได้ว่า “จริงด้วย ! ตัวเธอเองก็ พยายามหาทางทำให้เฉินเพิงกลับมาร่าเริงอีกครั้งอยู่ไม่ใช่หรือไง ? เพราะ ในสมาพันธ์ไม่ได้มืแต่พวกที่เห็นแก่ตัวลักหน่อยนี้ ! แล้วนี่ไหงตัวเธอเอง ตันพลอยหลงทางไปอีกคนได้ละ สระน้ำเป่าลม สไลเดอร์ จะใช้ซ่องลับเรียกตัวพวกเจี๋ยเด๋อกลับมาหา แต่ก่อนจะทันได้ลงมือ ก็หัน ไปเห็นพวกนั้นอยู่ช้างหน้าห่างออกไปไม่ไกลนักเข้าเสียก่อน และที่ทำ ให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นคือ คนที่กำลังคุยอยู่กับพวกเจี๋ยเด๋อตันเป็นคนที่ เขากำลังคิดอยากเจออยู่เมื่อครู่นี้นั้นเอง
วิหารจันทราเทพมองเห็นเฉินเหิเงแต่'ไกลอยู่ก่อนแล้ว จึงร้อง ทักอย่างดีอกดีใจ
“พี่เหิเง ! ไม่ได้เจอกันนานเชียวค่ะ !”
ถึงแม่ในความเป็นจริงเพิ่งจะผ่านไปแค่ไม่กี่วันเท่านั้นก็ตาม แต่ สำหรับในโลกแห่งเกมออนไลน์ที่เวลายาวนานกว่าในโลกความจริงถึง 6 เท่า นี้ ก็ถือว่าไม่ได้พบกันนานพอดูแล้วจริงๆ นั้นละ แน่ละว่าเฉินเหิเงเองก็ ร้องทักตอบไปอย่างดีอกดีใจเซ่นกัน สระน้ําเป่าลมขนาดเล็ก แล้วพลันเหลือบไปเห็นตราบนแขน ของวิหารจันทราเทพ ตรานินตน ดูท่าเธอจะไม่ได้ใต้อาชีพนักบวชก่อน เสียแล้ว
เซียวหยาวก็ยังแต่งชุดนินจาที่มืผ้าคลุมหน้าอยู่เหมือนเดิม เธอ หันมามองเฉินเหิเงอย่างตกใจที่เห็นเขาพลอยเปลี่ยนมาสวมชุดนินจาด้วย เหมือนกัน บุคคลทั้งสามซึ่งเคยร่วมผจญภัยกันมาได้มาพบกันอีกครั้ง ด้วยความบังเอิญแบบสุดๆ
“ไหงพอสามคนเจอหน้ากันปีบ สระ น้ำ เป่า ลม intex ก็สบสายตาสื่อความนัยกันปิง ๆ แถมทั้งพวกเราไปเลยอย่างนี้ล่ะ?” อาชากาฬเทพแดนประจิมพูดยิ้มๆ
เฉินเหิเงเค้นเสียงว่า “ยังไม่ทันได้คิดบัญชีกับพวกนายเลยด้วยซํ้า นี่ยังจะมาใส่ไฟกันอีกเรอะ